
อาร์เจนตินา
ประเทศในละตินอเมริกาแห่งนี้ผิดนัดในช่วงการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ในเดือนพฤษภาคมปี 2020 อาร์เจนตินาไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ย 500 ล้านดอลลาร์ในส่วนของหนี้ต่างประเทศได้ อันที่จริงมันไม่แปลกใจเลยสำหรับเจ้าหนี้ อันที่จริงประเทศได้ประกาศล้มละลายไปแล้วถึง 8 ครั้ง ความจริงคือการผิดนัด 2 ครั้งก่อนหน้านั้นเกิดขึ้นค่อนข้างไม่นานในปี 2014 และ 2001 วิกฤตครั้งหลังนี้เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของอาร์เจนตินา และผลกระทบที่ตามมานั้นสร้างความเสียหายได้มากที่สุด ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 หนี้พันธบัตรของประเทศมีมูลค่ารวม 95 พันล้านดอลลาร์ อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น 40% และ GDP ลดลง 11%

ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา รัฐในอเมริกาใต้แห่งนี้ได้ผ่านวิกฤตทางการเงินหลายครั้งที่นำไปสู่การล้มละลาย ตอนนี้เอกวาดอร์เป็นผู้นำระดับโลกในเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ระหว่างประเทศหลายครั้ง ไม่นานมานี้อันดับเครดิตของประเทศตกต่ำ โดยเกิดขึ้นในช่วงการระบาดของ COVID-19 หากลองมองย้อนกลับไปตอนนั้นพบว่าเจ้าหน้าที่ของเอกวาดอร์ได้ประกาศระงับการชำระเงินสำหรับภาระผูกพันภายนอกชั่วคราว ทว่าวิกฤตหนี้ที่เลวร้ายที่สุดของเอกวาดอร์เกิดขึ้นในปี 2008 หลังจากกรขาดแคลนน้ำมัน ประเทศนี้เป็นหนี้ผู้ถือพันธบัตร ธนาคาร และองค์กรระหว่างประเทศประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 20% ของ GDP

จาไมก้า
ภายหลังวิกฤตการเงินโลกปี 2008 จาเมกาได้ผิดนัดเช่นกัน ในปี 2009 หนี้รัฐบาลของประเทศมีจำนวนมากกว่า 140% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ จาเมกาใช้จ่ายประมาณ 45% ของงบประมาณรัฐในการชำระหนี้ ประเทศได้ประกาศล้มละลายในปี 2010 เมื่อถึงเวลานั้นหนี้อธิปไตยเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 8 พันล้านดอลลาร์

ไอวอรี่โคสต์
ประเทศในแอฟริกาตะวันตกแห่งนี้ผิดนัดในปี 2011 อันเนื่องมาจากวิกฤตทางการเมืองที่รุนแรง ในเดือนพฤศจิกายน 2010 นายLaurent Gbagbo ประธานาธิบดีไอวอรี่โคสต์ปฏิเสธที่จะออกจากตำแหน่งและคงอยู่ในอำนาจหลังจากแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดี การตัดสินใจปิดพรมแดนของรัฐส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจลดลงไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดผู้ผลิตโกโก้รายใหญ่ที่สุดของโลกก็ไม่สามารถชำระหนี้ของตนได้อีกต่อไป ในฤดูใบไม้ผลิปี 2011 เมื่อนาย Gbagbo ถูกจับ หนี้ต่างประเทศของไอวอรี่โคสต์ก็มีจำนวนเกิน 2 พันล้านดอลลาร์

กรีซ
กรีซประสบปัญหาหนี้สาธารณะในปี 2008 ประเทศซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยวกลับกลายเป็นว่าอ่อนไหวต่อวิกฤตการเงินโลก นอกจากนี้สถานการณ์ยิ่งแย่ลงไปอีกเนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนข้อมูลทางสถิติอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาหลายปีที่ทางการกรีซมองข้ามการขาดดุลงบประมาณจึงเป็นผลให้ประเทศประสบวิกฤตหนี้สาธารณะสองครั้งใน 10 ปีนั้นคือในปี 2012 และ 2015 ประเทศมีหนี้มากกว่า 260 พันล้านยูโรในปี 2555 ใน 3 ปีรัฐเป็นหนี้ 131 พันล้านยูโร

ศรีลังกา
การผิดนัดล่าสุดที่ก่อให้เกิดปัญหาอย่างกว้างในตลาดได้เกิดขึ้นในศรีลังกา หลังจากเกิดไวรัส COVID-19 ระลอกที่สองและอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้น เศรษฐกิจที่เน้นการท่องเที่ยวก็ขาดค่าเงินตราต่างประเทศ หนี้สาธารณะของศรีลังกาเกิน 45 พันล้านดอลลาร์ในเดือนเมษายน 2022 รัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระงับการชำระเงินให้กับเจ้าหนี้ ในปัจจุบันทางการมองว่าการนำเข้าสินค้าเป็นลำดับความสำคัญหลักและไม่ได้เป็นการชำระหนี้ตามภาระหน้าที่