การแปลงเป็นดิจิทัล
สถาบัน Ifo เชื่อว่าเยอรมนีอยู่ทิ้งท้ายประเทศอื่นๆ ในด้านการเปลี่ยนแปลงสุ่ยุคดิจิทัล สำนักงาน European Center for Digital Competitiveness ดำเนินการสำรวจโดยเปิดเผยว่าเยอรมนีอยู่ในอันดับที่ 18 จากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมและประเทศเกิดใหม่ชั้นนำ 20 ประเทศ (G20) โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีเพียงญี่ปุ่นและอินเดียเท่านั้นที่ยังอยู่อันดับต่ำกว่านั้น รัฐบาลล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายในการนำเสนออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านเครือข่ายทั่วประเทศ มีบริษัทไม่กี่แห่งที่ผลิตสายเคเบิลออปติกที่จำเป็นสำหรับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ประเทศยังล้าหลังในการขยายการสื่อสารบนโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ 5G ซึ่งทำให้การพัฒนาธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางลดลง รายงานที่จัดทำโดยสถาบัน Bitkom พบว่าเยอรมนีขาดผู้เชี่ยวชาญด้านไอที บริษัทส่วนใหญ่บ่นว่าไม่มีที่ปรึกษาด้านไอที โดยคาดว่าสถานการณ์ไม่น่าจะดีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
ปัญหาการขาดแคลนชิป
ปัญหาการขาดแคลนชิปเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องแก้ไข อุตสาหกรรมรถยนต์ของเยอรมนีกำลังพยายามเพิ่มการผลิตชิป อย่างไรก็ตามการขาดเซมิคอนดักเตอร์และส่วนประกอบอื่นๆ ทำให้กระบวนการช้าลง ผู้ผลิตรถยนต์และซัพพลายเออร์ใช้ชิปที่ผลิตในเอเชียและสหรัฐอเมริกา สถานการณ์ยังรุนแรงขึ้นจากการหยุดชะงักในห่วงโซ่อุปทาน ข้อมูลของสถาบัน Ifo ระบุว่าในเดือนกันยายนบริษัทอุตสาหกรรมถึง 77.4% รายงานว่ามีปัญหาในการซื้อตัวกลางและวัตถุดิบ ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 97% ในบรรดาบริษัทรถยนต์ ผู้เชี่ยวชาญที่สถาบัน Ifo เน้นย้ำว่าปัญหาการขาดแคลนไมโครชิปและส่วนประกอบทางอุตสาหกรรมอื่นๆ กำลังสวนทางกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ นั่นคือเหตุผลที่นักธุรกิจชาวเยอรมันพยายามลดการพึ่งพาซัพพลายเออร์ในเอเชียและอเมริกา ในการเป็นพันธมิตรกับผู้บริหารของสหภาพยุโรป เยอรมนีและฝรั่งเศสตั้งใจที่จะจัดสรรเงินหลายพันล้านยูโรเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างโรงงานชิปและเซมิคอนดักเตอร์ในท้องถิ่น
การสูงวัยของประชากรชาวเยอรมันเป็นประเด็นสำคัญอันดับสามที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องรับมือ อันที่จริงประเทศในยุโรปส่วนใหญ่ประสบปัญหานี้ด้วยเช่นกัน สถาบัน Ifo สันนิษฐานว่าเยอรมนีกำลังเข้าสู่สังคมสูงอายุมากขึ้นเนื่องจากอัตราการเกิดต่ำและการอพยพเข้าเมืองที่ไม่สม่ำเสมอ เมื่อไม่นานมานี้คุณ Angela Merkel ปฏิเสธที่จะปฏิรูประบบบำนาญสาธารณะและทำให้กฎการย้ายเข้าเมืองมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ภายใต้กฎที่มีอยู่อายุที่ชาวเยอรมันสามารถรับเงินบำนาญของรัฐนั้นมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็น 67 ปีจาก 65 ปี ก่อนหน้านี้ทางการของประเทศแนะนำให้เพิ่มเกณฑ์อายุไปเป็น 68 ปีภายในปี 2042 อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีกระทรวงการคลังคุณ Olaf Scholz ซึ่งอาจเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากคุณ Merkel ได้ปฏิเสธแนวคิดนี้ รายงานของ Institute for the World Economy (IfW) ในปี 2023 ระบุว่าเยอรมนีอาจมีการจ้างงานอยู่ในจุดสูงสุดโดยมีคนทำงานเกือบ 46 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ไม่นานต่อจากนั้นจำนวนคนที่ออกจากตลาดแรงงานอาจเกินกว่าจำนวนพนักงานใหม่ จึงเป็นผลให้ตั้งแต่ปี 2026 จำนวนคนทำงานคาดว่าจะลดลง 130,000 คนทุกปี ในทางกลับกันอาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศลดลง อย่างไรก็ตามปัญหาสามารถแก้ไขได้ด้วยการย้ายถิ่นฐานที่สูงขึ้น บริการดูแลเด็กที่ดีขึ้นและรูปแบบเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น