รายงานของ Business Insider ระบุกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มีความเชื่อว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางได้แก่ซาอุดีอาระเบีย อิรัก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะทำเงินได้ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสี่ปีข้างหน้าจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น
ผลกำไรมหาศาลเปรียบได้กับระดับที่คาดการณ์ไว้จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 เมื่อราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยอยู่ที่ 104 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในปี 2021 จะไม่เกิน 71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเป็น 139 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลหลังจากเริ่มต้นวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ในเดือนมีนาคมปี 2022 ต่อมาเกณฑ์ราคามาตรฐานทั่วโลกร่วงลงสู่ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลระหว่างความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในเศรษฐกิจโลก
ปัจจุบันซาอุดิอาระเบียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกที่แซงหน้ารัสเซียและสหรัฐอเมริกา บริษัทน้ำมันแห่งชาติ Saudi Aramco มีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 90% ไปเป็น 48 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สองของปี 2022 นักวิเคราะห์ระบุนี่เป็นผลกำไรประจำไตรมาสที่มากที่สุดในบรรดาบริษัทน้ำมันทั่วโลก
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางควรลงทุนในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิตทางเทคโนโลยีของประเทศ นี่เป็นสิ่งสำคัญในการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและวัตถุดิบตลอดจนการรักษาสิ่งแวดล้อม