logo

FX.co ★ คู่สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์สหรัฐ (AUD / USD): เงินดอลลาร์ออสเตรเลียไม่สามารถรักษาแนวโน้มไว้ได้

คู่สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์สหรัฐ (AUD / USD): เงินดอลลาร์ออสเตรเลียไม่สามารถรักษาแนวโน้มไว้ได้

ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ที่ได้จับคู่กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ได้แข็งตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว อย่างไม่ทันคาดการณ์ถึง อันดับที่ 74 แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในวันนี้ เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ได้ลดลงไปถึงจุดต่ำสุดประจำปี โดยปรับระดับความสำเร็จของสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องด้วยความผันผวนของราคาที่เหมือนกับคลื่น ได้สะท้อนถึงความกังวลของตลาด ซึ่งเกิดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา และประเทศจีน

แม้จะมีความกดดันจากความขัดแย้งสหรัฐอเมริกาและจีน จากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ค่อนข้างเป็นสิ่งไม่คาดฝัน โดยปกติแล้ว เทรดเดอร์ไม่มีเหตุผลใดที่จะเคลื่อนไหวไปอย่างนั้น แน่นอนว่า ตอนนี้เงินดอลลาร์กำลังเข้าสู่ช่วงที่มีความขัดแย้งอยู่บ้าง ในอีกด้านหนึ่ง สกุลเงินที่อยู่ภายใต้แรงกดดันจากนโยบายการค้าของต่างประเทศจากนาย Trump แต่ในอีกแง่หนึ่ง ก็ยังคงเป็นที่ต้องการอยู่ แม้ว่าจะไม่ค่อยคล่องตัวเท่าในฤดูใบไม้ผลิก็ตามที

ความสนใจในสินทรัพย์ที่น่าเชื่อถือ ที่อยู่ในกลุ่มของ "ดอลลาร์" ในรายการ ก็ยังเกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองในสหภาพยุโรป ซึ่งเกิดวิกฤตด้านการอพยพขึ้นอีกครั้ง นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่เป็นไปได้ ที่วิกฤตินี้จะทำให้เกิดการล่มสลายของรัฐบาลผสมในประเทศเยอรมนี และยุโรป ก็จะพบว่าตัวเองตกอยู่ในความไม่แน่นอนทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง ถ้าหากเทรดเดอร์รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองของประเทศอิตาลีและสเปนไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่ายดาย แล้วเหตุการณ์ของประเทศเยอรมันอาจกลายเป็นผลกระทบที่น่าเศร้าสำหรับตลาด (จากการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่ Bundestag ซึ่งจบลงด้วยแนวโน้มของ "การควบคุมเศรษฐกิจ" ของคุณ Jens Weidmann หัวหน้าธนาคารกลาวแห่งยุโรป ในปี 2019)

กล่าวอีกนัยหนึ่ง สถานการณ์ของเสถียรภาพทางการเมือง ได้ปรากฎตัวขึ้นมาอีกครั้งในยุโรป ดังนั้นแล้ว ความต้องการของเงินดอลลาร์สหรัฐ จึงไม่ลดลงไป ต้องให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวของดัชนีดอลลาร์ และไปเปรียบเทียบกับ ระดับความสามารถในการทำกำไร ของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ดังนั้น การยืนยันถึงตัวชี้วัดเหล่านี้ ชี้ให้เห็นว่า สกุลเงินดอลลาร์ได้เติบโตขึ้นโดยไม่ต้องมองไปที่พันธบัตร แม้ว่าในช่วงไม่นานมานี้ ก็พบกับแนวโน้มอีกด้านก็คือ การเติบโตของผลตอบแทนของหลักทรัพย์ที่ ได้ "รั้ง" เงินดอลลาร์ไว้สำหรับตัวเอง ในขณะที่ปัจจัยพื้นฐานหลากหลายประเภทก็ไม่ถูกสนใจโดยทางตลาด

ดังนั้น สิ่งที่เป็นผลลัพธ์มาจาก "ความล้มเหลว" ในวันศุกร์ของเงินดอลลาร์คืออะไร? อ้างอิงข้อมูลตามที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ได้ระบุไว้ว่า ไม่มีข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับเรื่องนี้ ทางด้านผู้เข้าร่วมในตลาด ได้ทำผลกำไรเพียงอย่างเดียวในวันซื้อขายวันสุดท้ายของเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบกับแนวโน้มของเป้าหมายที่ยังกำกวม ในส่วนของสงครามการค้าสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน ในวันนี้ สถานการณ์ส่วนใหญ่กลับมาสู่ภาวะปกติ สำหรับความเสี่ยงจากวิกฤตการณ์ทางการเมือง ส่งผลให้เกิดความสนใจต่อค่าเงินดอลลาร์ ในขณะที่ประเทศจีน และสหรัฐอเมริกาก็อยู่ในสถานะ "การต่อสู้" เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไป ดังนั้นในเวลาเพียงสี่วัน (วันที่6 กรกฎาคม) ภาษีนำเข้าครั้งแรกของทางทำเนียบขาวจะมีผลต่อ ประเทศจีน ในช่วงแรกก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา โลกการเงินกำลังโต้เถียงกัน เกี่ยวกับผลกระทบที่เป็นไปได้ของขั้นตอนนี้ หรือผลกระทบแบบ "โดมิโน" ที่เกิดขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น การเคลื่อนตัวของเงินหยวน ที่สามารถแสดงให้ทราบเลยว่า กรุงปักกิ่งใช้มูลค่าของเงินในการแลกเปลี่ยน เป็นอาวุธป้องกันในสงครามการค้า และเพื่อปกป้องผู้ส่งออกด้วยความช่วยเหลือจากการลดค่าเงิน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ขั้นตอนดังกล่าวเต็มไปด้วย "ผลข้างเคียง" (ปัญหาที่เกี่ยวกับ สภาพคล่องในตลาดภายในประเทศ, ความไม่แน่นอนของตลาดสินเชื่อ, การไหลเวียนออกของเงินทุน) ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเศรษฐกิจของประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง และสำหรับเศรษฐกิจโลกโดยทั้งหมด ในทางกลับกันทางด้าน นาย Trump ยังไม่ได้ใช้แนวทางที่เคยกล่าวออกมาทั้งหมด แต่อย่างน้อยที่สุด ก็มีเรื่องของการจำกัดการลงทุนของประเทศจีน

ถ้าหากพวกเราพูดถึงสกุลเงินออสเตรเลีย ในส่วนของตลาดวัตถุดิบก็เป็นปัจจัยกดดันก็จะเพิ่มเติมขึ้นมา สำหรับเหล็กกล้า, แร่เหล็กและถ่านหิน ยังคงสูญเสียมูลค่าไป จนราคาได้อ่อนตัวลงไปอย่างมาก ในขณะที่ทองแดงก็เกือบจะลดลงไปถึงระดับต่ำสุด (ในวันนี้ วัตถุดิบมีการซื้อขายเป็นจำนวนมากถึง 6476 ดอลลาร์ ในขณะที่ราคาเริ่มต้นได้อยู่ที่ 7090 ดอลลาร์)

คู่สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์สหรัฐ (AUD / USD): เงินดอลลาร์ออสเตรเลียไม่สามารถรักษาแนวโน้มไว้ได้


โดยทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น จะชี้ให้เห็นว่าธนาคารกลางแห่งประเทศออสเตรเลีย จะยังไม่เปลี่ยนจุดยืน ในการประชุมในเดือนกรกฎาคม (ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคมในช่วงเอเชีย) จะรักษาพารามิเตอร์ของนโยบายการเงินเอาไว้ตามเดิม สำหรับความเสี่ยงจากภายนอกประเทศ เช่นอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนแอ, การเติบโตของค่าจ้าง, การลดลงของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ "เย็น" ตัวลงไปกับประเทศจีน ดังนั้นปัจจัยเหล่านี้ช่วยลดโอกาสในความตั้งใจของธนาคารกลางแห่งประเทศออสเตรเลีย ตามที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ได้มองกันว่า ธนาคารกลางจะกลับสู่ประเด็นของการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ไม่เร็วไปกว่าช่วงครึ่งปีหลังของปี 2019 แม้ว่าจะมีการเติบโตของยอด GDP ในประเทศออสเตรเลียในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ก็ตามที ดังนั้นสถานะที่ "อ่อนตัวลง" ของธนาคารกลางแห่งประเทศออสเตรเลีย อาจเพิ่มแรงกดดันต่อเงินดอลลาร์ออสเตรเลียในระยะปานกลาง

จากมุมมองทางเทคนิค แสดงให้ทราบว่า คู่สกุลเงินนี้ ได้มีแนวโน้มขาลงที่เด่นชัด ซึ่งได้รับการยืนยันจากตัวบ่งชี้แนวโน้มหลัก โดยมี กลุ่มแนวเส้น Bollinger Bands และ Ichimoku Kinko Hyo ดังนั้นแล้ว ตัวบ่งชี้ Ichimoku Kinko Hyo ในกราฟรายสัปดาห์ ได้กลายมาเป็นสัญญาณในขาลงของ "Parade of lines" ซึ่งในทุกแนวเส้นของตัวบ่งชี้ จะอยู่เหนือกราฟราคา มันจึงแสดงให้เห็นถึงแรงกดดันต่อคู่สกุลเงิน ในทางกลับกัน ราคาอยู่ในบรรทัดล่างสุดของแนวเส้น Bollinger Bands ซึ่งแสดงถึง ช่องทางที่แคบลง โดนมันจะเป็นสัญญาณที่แข็งแกร่งสำหับทิศทางขาลง

คู่สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์สหรัฐ (AUD / USD): เงินดอลลาร์ออสเตรเลียไม่สามารถรักษาแนวโน้มไว้ได้

การยืนยันเพิ่มเติมจากสถานการณ์ในขาลง ก็คือแนวการเกิด oversoldnessของ MACD และตัวชี้วัดความแกว่ง สำหรับระดับแนวต้าน ที่ใกล้ที่สุดก็คือเส้น Tenkan-sen ของตัวบ่งชี้ Ichimoku Kinko Hyo ซึ่งได้สอดคล้องกับแนว 0.7500 จุด แต่ถึงอย่างไรก็ตามในอนาคตอันใกล้นี้ ระดับนี้ก็ไม่น่าจะทำให้เกิดความเป็นไปได้ของการที่คู่สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์สหรัฐ (AUD / USD) จะปรับไปยังราคาต่ำที่สุดในรอบปี

*การวิเคราะห์ตลาดตามนี้จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับคุณ แต่ไม่ได้เป็นการชี้แนะแนวทางในการซื้อขาย T
ไปที่หน้ารวมบทความ ไปที่บทความของผู้เขียน เปิดบัญชีเทรด