logo

FX.co ★ เงินดอลลาร์ยังคงเเข็งค่าขึ้นมา

เงินดอลลาร์ยังคงเเข็งค่าขึ้นมา

สำนักงานงบประมาณของสหรัฐอเมริกา (CBO) ได้ออกการคาดการณ์เกี่ยวกับ สถานะของงบประมาณในช่วงครึ่งปี เป็นไปตามที่ได้คาดไว้ ความกังวลต่อ ความร้อนและพลังงานกำลังเพิ่มมากขึ้น ที่ดูแล้วถ้าหากกฎหมายในปัจจุบันยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้น ส่วนภาระหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐอเมริา ก็ยังเพิ่มขึ้นถึง 152% ของยอด GDP ในปี 2048 และการขาดดุลในงบดุล ก็เพิ่มขึ้นถึง 9.5%

และนี่ก็ยังเป็นสถานการณ์ในแง่ดีอยู่ เพราะว่ามีบางส่วนมันก็แสดงให้เห็นว่า ทั้งหนี้และการขาดดุลในงบประมาณ ได่เริ่มต้นต่อการเติบโตเพิ่มขึ้นมา ถ้าหากสมาชิกสภานิติบัญญัติปฏิเสธการเพิ่มภาษีรายได้ ตามที่ได้วางแผนใไว้นปี 2026 จากนั้นก็อาจจะยิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขที่ประมาณไว้

เงินดอลลาร์ยังคงเเข็งค่าขึ้นมา

มันควรมีการเน้นย้ำถึง การคาดการณ์ของสถาบัน CBO ที่จะคำนึงถึง การเปลี่ยนแปลงในส่วนของกฎหมายภาษี ที่เพิ่งได้รับการปรับใช้ในเร็วๆนี้ มันเป็นที่ชัดเจนว่า เพื่อให้เหตุการณ์หลายๆอย่างอยู่ในสถานการณ์ไปในทางเลวร้ายที่สุด ทางรัฐบาลต้องการให้ ผลลัพธ์ของการปฏิรูปภาษีให้เกิดความประสบความสำเร็จภายในปี 2026 โดยไม่ทำให้รายได้ของรัฐลดลงไป มันก็จะยิ่งจะเพิ่มภาษีเงินได้ และเริ่มชะลอตัวลงมาสำหรับ การเติบโตของหนี้สาธารณะ

มีข้อสรุปที่ชัดเจนอื่นๆออกมา นั้นก็คือหนี้ของประเทศที่เพิ่มขึ้น จะสร้างความเสียหายต่อนโยบายทางเศรษฐกิจ และงบประมาณ, การออมเงินในระดับชาติจะลดลง และดอกเบี้ยของรัฐบาลจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนอาจจะทำให้เกิดวิกฤติการณ์ใหม่ขึ้น

รัฐบาลของนาย Trump ต้องรีบมากขึ้น สำหรับการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรที่กำลังใกล้เข้ามา และการสูญเสียการควบคุมในสภาของพรรครีพับลิกัน จะทำให้การดำเนินงานของฝ่ายบริหาร ในการปรับใช้ การเปลี่ยนแปลงในด้านกฎหมาย ดังนั้นแล้วนาย Trump เองก็ไม่สามารถยอมให้เป็นเช่นนี้อย่างแน่นอน และจากนั้น ก็อาจจะยืนยันให้มีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงทางการค้า เพื่อเอาใจผู้นำจากโลกตะวันออก

การชะลอตัวลงไปของการเติบโตในดัชนี PMI ได้แสดงให้เห็นถึง ความเสี่ยงบางอย่าง แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันไม่ให้ทางเฟด จากการยึดมั่นในแผนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลกำไรของสินทรัพย์ที่อ้างอิงกับสกุลเงินดอลลาร์โดยอัตโนมัติ ในช่วงตอนท้ายของปี 2019 พบว่ามีการวางแผนปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกถึง 5 ครั้ง (2 ครั้งในปีนี้ และอีก 3 ครั้งในปีถัดไป) สำหรับการปรับตัวลงไปใน ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจมหภาคจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มนี้เท่านั้น

เงินดอลลาร์ยังคงเเข็งค่าขึ้นมา

ในตอนนี้ ความเป็นไปได้เช่นนี้อาจเกิดขึ้นตริง แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า จะเกิดอะไรขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นการลดลงของตัวชี้วัดที่มีความสำคัญได้แก่ การเติบโตของยอด GDP , การลดระดับลงของตลาดแรงงาน หรือภาวะวิกฤติการณ์ในตลาดเกิดใหม่ ที่จะเพิ่มความต้องการเงินดอลลาร์ ส่วนทางด้านเฟดก็กำลังปิดงบประมาณรายเดือนลงไป เป็นจำนวน 50 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมันจะเกิดขึ้นก่อนสิ้นปีนี้ และส่วนใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะกรณใดๆก็แล้วแต่ มันจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ก่อนสิ้นปีนี้ได้

สกุลเงินของประเทศกำลังพัฒนา ประสบการสูญเสียไปอย่างมาก เนื่องจากภาวะสินเชื่อในระดับโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งได้รับการดำเนินการโดยธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา อย่างต่อเนื่อง แล้วยังได้รับการกำกับดูแลจากตลาดเหล่านี้อีกด้วย ในส่วนของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ได้ประกาศว่า ตั้งใจจะพิจารณาประเด็นเรื่อง การลดงบดุลลงไป ซึ่งก็คือการปฏิบัติตามแนวทางของเฟด และการลดลดอุปทานของเงินทุนลงไป

ตลาดหุ้นยังคงลดลงไป ซึ่งเป็นสัญญาณของความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นมาแทนที่ สำหรับการลดลงของทองคำ ไม่ควรจะหลงเชื่อได้ง่าย ในสภาวะเช่นนี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงวิธีการออกจากช่วงความตึงเครียด แต่เป็นความเชื่อมั่นในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเงินดอลลาร์

ในส่วนของยูโรโซนจะพบได้ว่า เงินดอลลาร์ไม่น่าจะได้รับอัตราที่ประกาศออกมาจากทางธนาคารเพื่อส่งเสริมการแข็งค่าของเงินยูโร ส่วนธนาคารกลางแห่งยุโรป ประกาศยกเลิกการซื้อพันธบัตร ภายในสิ้นปี 2018 แต่การเพิ่มขึ้นของอัตราของความชัดเจนยังมีไม่มากนัก แต่กลับลดลงไป และหากก่อนหน้านี้ตลาดก็จะมีการกำหนดไว้สำหรับช่วงเดือน มิถุนายน ปี 2019 ในตอนนี้ การคาดการณ์สำหรับการเพิ่มขึ้นครั้งแรก ก็ได้เปลี่ยนไปจนถึงช่วงเดือนสิงหาคม ในขณะเดียวกันเอง ในยูโรโซนก็กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาที่เห็นได้ชัดคือ ดัชนี PMI กำลังลดระดับลงไป ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรได้ปรับตัวลดลงไปจากระดับสูงล่าสุด ที่เป็นความหวังสำหรับอัตราเงินเฟ้อ ที่จะเพิ่มขึ้นไปอย่างช้าๆ แต่ก็เพิ่มขึ้นอย่างเนื่อง จากการเติบโตของราคาด้านพลังงาน ดังนั้นเงินยูโรได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นการการรวมกำลังที่ต่ำกว่าระดับ 1.15 ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

ในวันพุธที่ผ่านมา คู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ อาจมีการซื้อขายอยู่ในช่วง 1.1630/1690 ตามแรงโน้มถ่วงสู่เขตแดนด้านล่าง สำหรับเงินปอนด์ส่วนใหญ่ จะเข้าสู่ช่วงด้านข้าง โดยมีการปรับตัวลงเล็กน้อยที่ 1.3180

*การวิเคราะห์ตลาดตามนี้จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับคุณ แต่ไม่ได้เป็นการชี้แนะแนวทางในการซื้อขาย T
ไปที่หน้ารวมบทความ ไปที่บทความของผู้เขียน เปิดบัญชีเทรด