logo

FX.co ★ ทองคำยังคงไม่ได้เคลื่อนตัวไปไหน

ทองคำยังคงไม่ได้เคลื่อนตัวไปไหน

การเพิ่มขึ้นของ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ที่สูงกว่าระดับทางจิตวิทยาที่สำคัญใน 3% และ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ที่ไปอยู่ในระดับสูงสุด ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม ทำให้เกิดการปรับตัวลงมาของ มูลค่าสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าไปในระดับต่ำ ในระยะการรวมกำลังระยะกลางที่ $1300-1360 ต่อออนซ์ ไม่ว่าจะเป็นการถอนตัวของ สหรัฐอเมริกาออกจากข้อตกลงด้านอาวุธนิวเคลียร์ในปี 2015 กับทางประเทศอิหร่าน หรือจะเป็นการตัดสินใจของประเทศจีน หรือกระทั้ง ปัญหาด้านการเมืองของประเทศอิตาลี ก็ไม่ได้มีส่วนช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มนักลงทุนเลยแม้แต่น้อย ที่พวกเขาได้ทำการซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐไว้อย่างมาก ซึ่งเป็นวิธีเดียวกันกับที่พวกเขาได้เคยทำไปในช่วงแรกของปี ในการป้องกันการดำเนินการจากระดับด้านล่างดัชนีเงินดอลลาร์ ก็ค่อนข้างเป็นเรื่องยากสำหรับโลหะมีค่า

อ้างอิงจากทางด้าน JP Morgan ที่ได้ออกมาระบุข้อมูลว่า คุณจำเป้นต้องรับมือกับความจริงที่ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีจากสหรัฐอเมริกา กัลแนวโน้มการรัดกุมทางการเงินอย่างมากของทางธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา อาจจะมีส่วนปรับตัวขึ้นมาอีก 4% ตามการคาดการณ์นี้ พร้อมกับ คำแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลาง คุณ Jerome Powell ที่ออกมาว่า ตลาดไม่ควรตื่นกลัวจาก อัตราการปรับนโยบายทางการเงินสู่สภาพเดิมที่เร็วกว่าที่พวกเขาได้คาดการณ์ไว้ ถ้าหาก การคาดการณ์ของผู้กำหนดนโยบายทางการเงินได้ถูกใช้งาน ก็จะช่วยให้ "แนวโน้มขาลง" สำหรับคู่ออนซ์ทองคำและดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ที่ได้เข้ามาแสดงผลก็จะเกิดขึ้น ไม่เพียงแต่ เงินดอลลาร์สหรัฐเเข็งค่าขึ้นมา ที่จะก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นของ ค่าใช้จ่ายด้านการนำเข้าในอีกหลายประเทศ ที่เป็นผู้บริโภครายใหญ่ของสินทรัพย์ที่จับต้องได้ (ประเทศจีน, อินเดีย) ทางด้านทองคำจึงไม่ต้องรับผลเสียอะไร แต่ก็ไม่กำลังพอที่จะปรับตัวไปกับหลักทรัพย์อื่นๆ (หุ้นและตราสาร)

การเคลื่อนไหวของ แนวโน้มพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา

ทองคำยังคงไม่ได้เคลื่อนตัวไปไหน


ส่วนโลหะมีค่าเองก็ไม่ได้รับการสนับสนุนจากตลาดด้วยเช่นกัน ทางด้าน Bloomberg ที่ได้รับข้อมูลมาจากนิวเดลี ได้ระบุถึง ในเดือนเมษายนนั้น การนำเข้าทองคำของประเทศอินเดียได้ลดระดับลงไป 52.7 ตัน หรือคิดเป็น 46% ประจำปี อ้างอิงจากผลการรายงานแล้วก็จะพบว่า ในช่วงสี่เดือนแรกของปี 2018 จะพบว่าตัวบ่งชี้ได้ลดระดับลงไป 43% ประจำปี และอยู่ในปริมาณ 211.7ตัน ส่วนหุ้นของกองทุนการเเลกเปลี่ยนแบบพิเศษ (ETF) หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมา 60ตัน ในเดือนเมษายน ก็จะกลายมาเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีที่สุด ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 ส่วนเดือนพฤษภาคม ก็ได้เผชิญหน้ากับการไหลเวียนออกไปเป็นปริมาณถึง 10.5 สำหรับประเทศจีนที่ยังไม่ทำการซื้อทองคำเพื่อเติมเต็มเป็น ปริมาณสำรองให้กับธนาคารกลางแห่งประเทศจีน เป็นรอบ 18 เดือนติดต่อกัน

การถอนตัวของสหรัฐอเมริกาออกจากข้อตกลงด้านอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมกับการที่ประเทศอิหร่านได้ทำการเพิ่มมูลค่าของทางเบรนท์มาถึง 77เหรียญต่อบาร์เรล จึงได้เพิ่มการคาดการณ์ต่อเงินเฟ้อ ซึ่งแต่เดิมแล้วจะถูกมองว่าเป็นปัจจัยที่ดีสำหรับคู่ออนซ์และดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชีดออกมาว่า ระดับเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นมามากกว่า อัตราตามปกติใน ตราสารของสหรัฐอเมริกา มันค่อนข้างเป็นเรื่องยากสำหรับทองคำ ที่จะปรับตัวตามแนวโน้มของ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นแล้ว ตลาดก็ยังจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมาในเดือนมิถุนายนถึง 100% ในข้อสังเกตก็จะพบว่า โลหะมีค่าอาจจะลดระดับลงไป 3-4% ในมูลค่าของตัวมันเอง ในช่วงเดือนก่อนหน้าที่จะมีการประชุมที่สำคัญของทาง ผู้กำหนดนโยบายทางการเงิน

ทางเทคนิคแล้วจะพบว่า การเปลี่ยนแปลงของกราฟรูปแบบ "ฉลาม" ไปใน 5-0 และการดำเนินการของกราฟรูปแบบ"Broadening wedge" ส่วนการเคลื่อนตัวเข้าไปหาแนวรับอีกครั้งที่ $ 1,300-1,302 ต่อออนซ์ ก็จะเพิ่มแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการทะยานขึ้นไป หาในทิศทางของ $1285 และ $1263 มันจึงแสดงให้เห็นถึงการตอบสนองต่อระดับของการปรับฐานที่ 61.8% และ 78.6% ของแนวการเคลื่อนตัวขึ้นในระยะกลางล่าสุด

ชาร์ตรายวันของทองคำ

ทองคำยังคงไม่ได้เคลื่อนตัวไปไหน

*การวิเคราะห์ตลาดตามนี้จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับคุณ แต่ไม่ได้เป็นการชี้แนะแนวทางในการซื้อขาย T
ไปที่หน้ารวมบทความ ไปที่บทความของผู้เขียน เปิดบัญชีเทรด