logo

FX.co ★ ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษกำลังเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่ลำบาก

ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษกำลังเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่ลำบาก

ยูโรโซน

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่ได้เงินยูโรได้ปรับตัวขึ้นมาได้ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับระดับเงินเฟ้อต่อผู้บริโภค ในเดือนเมษายนได้รับการแจ้งเตือนออกมาว่า แย่กว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ ส่วนการเติบโตในยอดการค้าปลีกก็ลดระดับลงไป 0.8% ในเดือนมีนาคมต่อปี และกิจกรรมของภาคธุรกิจเองก็ลดระดับลงไปทั้งหมดในภาคเศรษฐกิจ ตากการคาดการณ์ของสถาบัน Markit ในส่วนของภาคการบริการก็พบว่า ดัชนี PMI ได้ลดระดับลงไปของเดือนเมษายน จากเดิมใน 55.0 จุดไปที่ 55.7 จุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการลดลงของกิจกรรมที่มีการสำรวจในประเทศเยอรมณี

ส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนได้เพิ่มขึ้นมาตามแนวโน้มของเงินดอลลาร์ และถ้าพวกเรามาเปรียบเทียบระดับการเคลื่อนไหวกับ อัตราของคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EURUSD) ดังนั้นพวกเราก็จะสามารถเห็นแนวโน้มที่อาจจะมีการปรับตัวลงไปยัง 1.05 ได้ในช่วงปลายปีนี้

ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษกำลังเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่ลำบาก

ทางด้านเฟดได้ออกมาเปลี่ยนแปลง แนวโน้มการคาดการณ์ต่อเงินเฟ้อตามความเห็นหลังการประชุมเมื่อเร็ว ๆ นี้ ของทางผู้กำหนดนโยบายทางการเงิน (FOMC) นอกจากนั้น ก็คาดให้เกิดการปรับตัวขึ้นในเร็วๆนี้ โดยมันจะช่วยให้เกิดความมั่นใจต่อการคาดการณ์ ในการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกสองครั้งภายในปีนี้ ขณะที่ ตัวแทนของทางด้านธนาคารกลางแห่งยุโรปเอง ก็ได้ยกเลิกการปรับขึ้นครั้งแรกในช่วงครึ้งที่สองของปี 2019ไป และพวกเขาก็ยังดำเนินการต่อไปจากการเริ่มต้นการระงับการดำเนินการซื้อสินทรัพย์ ที่ตอนนี้ยังไม่มีขอบเขตระยะเวลาที่แน่ชัดออกมา

ในช่วงสัปดาห์ที่จะถึงนี้ นั้นดูเหมือนว่าอาจจะยังไม่ช่วยให้เงินยูโรหยุดตัวไว้จากการปรับตัวลง โดยสัปดาห์นั้นมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคออกมาที่ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากไม่มีอะไรที่น่าจับตามองไปกว่า การรายงานจากผลผลิตทางอุตสาหกรรม และดุลการค้า ของประเทศเยอรมณีในวันอังคาร และตลาดเองก็กำลังจับตามองดู แนวโน้มของเศรษฐกิจมหภาคโดยรวมมากกว่า ปัจจัยที่ส่งต่อกิจกรรมภายในของชาวยุโรป การปรับตัวขึ้นมาของราคาน้ำมันอาจจะส่งผลต่อ ระดับการเติบโตด้านการผลิต และลดระดับดุลการค้าระหว่างประเทศลงไป ดังนั้นแล้วจากการที่ยังไม่มีผลจากการเจรจาระหว่างสหรัฐอเมริกา และประเทศจีนก็จะยิ่งเพิ่มอุปสงค์ในระดับโลกของเงินดอลลาร์ตามเดิม

เงินยูโรจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าช่วงค่าเฉลี่ยในรอบ 200วัน และต่ำกว่าตำแหน่งทางจิตวิทยาที่ 1.20 ในแนวโน้มขาลง สำหรับแนวโน้มขาลงก็จะผลักดันให้ราคาเคลื่อนตัวไปหาระดับของแนวรับที่ 1.1710

สหราชอาณาจักรอังกฤษ

ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจ ในภาคการบริการนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถทำความเข้าใจกับแนวโน้มของ สภาวะเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรอังกฤษ ในเดือนเมษายนนั้นได้แสดงให้ทราบถึง การปรับตัวขึ้นมาใน 52.8 จุด ที่มากกว่า 51.7 จุดในเดือนก่อนหน้านี้ แต่กลับน้อยกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ ดังนั้น แนวโน้มโดยรวมในช่วงครึ้งที่สองในปี 2014 ก็ไม่เป็นที่สงสัยอีกต่อไป

ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษกำลังเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่ลำบาก

ในช่วงของการประชุมในวันพฤหัสบดี ทางธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจะตรวจสอบถึง จุดอ่อนที่เกิดขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจในประเทศว่าจะเกิดขึ้นชั่วคราว หรืออาจจะเป็นผลกระทบที่สำคัญอย่างมาก จนถึงตอนนี้ ตลาดก็ยังมั่นใจเกี่ยวกับ การประชุมในเดือนพฤษภาคม ที่ทางเจ้าหน้าที่จะทำการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมา จากความมั่นใจที่เกิดขึ้นจากการฟื้นตัวในระยะยาว แต่ข้อมูลล่าสุดออกมา ก็แสดงให้เห็นว่า อาจจะไม่มีการปรับ

การเติบโตของยอด GDP ได้ลดระดับลงไป 1.2% ,กิจกรรมทางธุรกิจก็ลดระดับลงไปในทุกภาคส่วน , ดัชนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ได้เดินทางเข้าสู่แดนลบ และระดับเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนมีนาคมา ก็ลดระดับลงไป 2.3% ที่เป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบปี นอกจากนั้นแล้ว ยังไม่มีสัญญาณออกมาเกี่ยวกับ "การฟื้นตัวอย่างแท้จริง" โดยการคาดการณ์ต่อการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมานั้น ก็เริ่มได้รับผลกระทบหลังจากที่มี คำแถลงการณ์ออกมาล่าสุดจาก ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ คุณ Mark Carney

เงินปอนด์ ได้ไปทดสอบในระดับ 1.35 และนี้เป็นมุมมองตามข้อเท็จจริงที่แสดงให้ทราบเกี่ยวกับ แนวโน้มของการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมานั้นยังคงสูงอยู่ ถ้าธนาคารแห่งประเทศอังกฤษได้ยกเลิกการปรับนั้น เงินปอนด์ก็อาจจะลดระดับลงไป เนื่องจากมีการปรับตัวขึ้นมาไปยัง 1.30 เนื่องจากยังไม่มีสาเหตุต่อการเติบโตเกิดขึ้นมา สำหรับการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนั้นจะมีผลกระทบแค่เพียงชั่วคราว และการลดระดับนั้นอาจจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง แต่ราบรื่น ส่วนกรณีที่มีการเติบโตขึ้นมาถึง 1.3705 เกิดขึ้นมาจริง อาจจะตามมาด้วยการปรับตัวลงที่ตามมาก็เป็นได้

น้ำมัน

น้ำมันยังคงมีการปรับตัวขึ้นมาอย่างมาก เมื่อเทียบกับแนวโน้มทางการเมือง ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกาต่ออิหร่าน ในการบรรลุถึงระดับที่ 75เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งอาจจะมองว่าเป็นความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมในโอเปก และในข้อตกลงสัญญาที่กำหนดไว้ เนื่องจากแนวโน้มก็ได้แสดงให้ทราบถึงผลที่เกิดขึ้นในระยะกลางที่ตอนนี้ ไม่ได้เป็นเป้าหมายสูงสุดอีกต่อไป ส่วนความเสี่ยงอาจจะมาพร้อมกับการบริโภค และส่งผลต่อความสมดุลในช่วงระดับ 80-852ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากมันได้แสดงให้เห็นว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลายประเทศไม่สามารถควบคุมระดับของพวกเขาไว้ได้แม้แต่ระดับราคา

สถานการณ์รอบๆอิหร่านก็อาจจะเริ่มทรงตัวดีขึ้นมา ก่อนหน้าวันที่ 12 เดือนพฤษภาคม และก่อนหน้านี้ มูลค่าในตอนนี้ก็อาจจะมีแนวโน้มในการปรับตัวสูงขึ้นตามเดิม

*การวิเคราะห์ตลาดตามนี้จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับคุณ แต่ไม่ได้เป็นการชี้แนะแนวทางในการซื้อขาย T
ไปที่หน้ารวมบทความ ไปที่บทความของผู้เขียน เปิดบัญชีเทรด