logo

FX.co ★ ทองคำเริ่มมีแรงในการหนุนตัวขึ้นมา

ทองคำเริ่มมีแรงในการหนุนตัวขึ้นมา

การเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงในการครอบครองสินทรัพย์ในระดับโลก และ ความเสถียรของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ได้ลดระดับการทะยานตัวขึ้นมาอย่างมากของทองคำ โดยโลหะมีค่าเองก็ยังไม่สามารถเคลื่อนตัวไปทะลุผ่าน 1365เหรียญต่อออนซ์ขึ้นไปได้ แล้วผู้ติดตามยังต้องการให้เกิดการย้อนตัวลงกลับมาอีกด้วย หรือว่าพวกเขาอาจจะกำลังเตรียมพร้อมต่อการทะยานขึ้นมาครั้งใหม่ หรือ อาจจะกลัวว่า ความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้นมมาของการปรับอัตราดอกเบี้ยจากส่วนกลางของปี 2018 ใน 4 ครั้งที่อาจจะมากกว่า 40% ที่อาจจะกลายมาเป็นข้อถกเถียงสำหรับการปรับฐานได้หรือไม่?

ถ้าหนึ่งในจุดยืน "นกนางนวล" นั้นก็คือประธานของธนาคารกลางแห่งชิคาโก คุณ Charles Evans ได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นที่ว่า เงินเฟ้อจะสามารถขยับตัวเข้าไปใกล้กับระดับที่ 2% ภายในปีนี้ได้ และทางเฟดเองก็ควรจะปรับนโยบายทางการเงินให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ แล้วมันก็เห้นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังพิจารณาอะไรกันอยู่ เพราะว่า ในตลาดเกือบ 88% มั่นใจว่า ทางด้านธนาคารกลางจะเริ่มต้นรัดกุมนโยบายทางการเงิน อีกสามครั้งภายในปีนี้ แต่ปัจจัยนี้เองก็รวมอยู่ในการพิจารณาด้านมูลค่าของดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งยังไม่ได้ทำให้มันได้กลายมาเป็นส่วนสนับสนุนที่สำคัญ อีกประเด็นที่สำคัญก็คือ ความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้นมาของการรัดกุมด้านการเงินถึงสี่ครั้งให้ถึงระดับ 42% โดยไพ่ไม้ตายนี้จะยังส่งผลในส่วนของ "เงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะสินทรัพย์ปลอดภัย ที่อ้างอิงกับเงินเยน, เงินฟรังก์ และทองคำ"

การเคลื่อนไหวของ ทองคำและเงินดอลลาร์สหรัฐ

ทองคำเริ่มมีแรงในการหนุนตัวขึ้นมา

โลหะมีค่ายังไม่ได้รับการสนับสนุนมาจากสงครามทางการค้า หรือการกีดกันทางการค้า และด้านการเมืองมากนัก ทางด้านประเทศจีนก็เตรียมพร้อมในการยินยอมต่อการทำข้อตกลง เนื่องจากเป็นที่เข้าใจกันว่า สหรัฐอเมริกามีเครื่องมือมากมายที่อาจจะกระตุ้นความขัดแย้งทางการค้าขึ้นมา นอกจากนั้นทางด้านประเทศจีนเองก็เตรียมแผนการในการเปิดเสรีต่อการเข้าถึงของชาวต่างชาติ เข้าสู่ตลาดในประเทศ ก่อนหน้านี้ ประชาชนที่ไม่ได้เป็นผลเมืองไม่สามารถถือหุ้นได้มากกว่า 50% ของบริษัทที่ทำการผลิตรถยนต์ออกมา โดยในปี 2022 ข้อกำหนดเหล่านี้จะกลายมาเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ไป ดังนั้นแล้ว ความเสี่ยงต่อสงครามทางการค้าก็ลดระดับลงไป ซึ่งทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของดัชนีหุ้นในระดับโลก อย่างเช่นสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างทองคำ ซึ่งมันไม่ได้เป็นข่าวที่ดีมากนัก รวมทั้ง ทางด้านสถาบัน IMF เองก็มั่นใจต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจในระดับโลก และคาดการณ์ถึงการเติบโตในระดับที่ 3.9% ในปี 2018ซึ่งจะกลายมาเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตั้งแต่ปี 2011

คำแถลงการณ์ของนาย Donald Trump เกี่ยวกับ การถูกกล่าวหาเกี่ยวกับการลดมูลค่าลงที่ส่งผลต่อทางการแข่งขันของเงินรูเบิล และหยวน ได้ถูกมองจากมุมมองของตลาดการเงินว่าเป็นการเข้าแทรกแซง แต่ทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา คุณ Steve Mnuchin ได้พยายามออกมาโน้มน้าวนักลงทุนว่า ประธานาธิบดีไม่ได้ต้องการลดมูลค่าเงินดอลลาร์ด้วยวิธีเช่นนั้น ข้อมูลสถิติที่มาพร้อมกับผลผลิตทางด้านอุตสาหกรรมของช่วงเดือน กุมภาพันธ์จนถึงเืดอนมีนาคม, จุดยืนตรงกลางแบบ "นกนางนวล" ของคุณ Charles Evans และคำให้การ 5 นาทีจากประธานธนาคารกลางแห่งนิวยอร์ก คุณ John Williams ที่ทำให้แนวโน้มไม่สามารถกลับไปยังพื้นที่สีแดงได้ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เศรษฐกิจในหสรัฐอเมริกาจะไม่กลับเข้าสู่ภาวะการถดถอย) สำหรับคำแถลงการณ์ของคุณ Munchin เองก็ส่งให้เงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นไป และเผชิญหน้ากับผู้ซื้อทองคำที่คาดว่าอาจจะเป็นการปรับอัตราขึ้นมาสามครั้ง ก่อนหน้านั้น

ในเวลาเดียวกันเอง ยังเป็นเรียกยากที่จะมองว่าสถานะของโลหะมีค่านั้นจะยังสั่นคล่อนอยู่เหมือนเดิม อ้างอิงจากการรายงานของสถาบัน Commerzbank ที่ได้ระบุว่า หุ้นของ ETF ของเดือนเมษายนได้ปรับตัวขึ้นมา 36 ตัน ซึ่งเป็นสองครั้งที่มากเท่ากับเดือนมีนาคม ทางด้านนักลงทุนเองก็เริ่มเข้าสู่สินทรัพย์ในประเทศที่พัฒนา และก็กำลังมองหาทองคำเพิ่มเติม หากเทียบกับช่วงที่ผ่านมาที่ความเสี่ยงต่อความผันผวนได้เพิ่มขึ้นมาในตลาดการเงิน

ช่องโหว่ในแนวต้านที่ 1357-1362 เหรียญต่ออนซ์ จะเปิดช่องทางไปในแนวโน้มขาขึ้นที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 127.2% และ 161.8% สำหรับกราฟรูปแบบ AB = CD

ชาร์ตรายวันของทองคำ

ทองคำเริ่มมีแรงในการหนุนตัวขึ้นมา

*การวิเคราะห์ตลาดตามนี้จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับคุณ แต่ไม่ได้เป็นการชี้แนะแนวทางในการซื้อขาย T
ไปที่หน้ารวมบทความ ไปที่บทความของผู้เขียน เปิดบัญชีเทรด