ตามรายงานของ WGC (World Gold Council) ประเทศตุรกีหลังจากการขายที่เพิ่มขึ้นเป็นเวลาสามเดือนกลับมาเติมเต็มสำรองทองคำของตนอีกครั้ง
ในรายงานของ WGC ระบุว่า ยอดขายตั้งแต่เดือนมีนาคมของธนาคารกลางตุรกีเทียบเท่ากับจำนวนที่ซื้อรวมกันของเดือนก่อนหน้า ทำให้การขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ขายนี้มาจากบุคลิกภาพของตลาดในประเทศซึ่งส่งผลให้มีความต้องการทองคำสูงมากและมีการห้ามนำเข้าชั่วคราวบางส่วนสำหรับแท่งทองคำ
การขายทองขนาดใหญ่ในประเทศตุรกีได้ส่งผลกระทบต่อข้อมูลของธนาคารกลางโลก โดยสำหรับเดือนพฤษภาคม สำรองทองของรัฐบาลทั่วโลกลดลง 27 ตัน
ในปีที่ผ่านมา เมื่อธนาคารกลางทั่วโลกกำลังจะเก็บรวบรวมทอง ตุรกีกลายเป็นผู้ซื้อทองขนาดใหญ่ที่สุด ทำให้สำรองทองทางการขององค์กรรัฐใหญ่ขึ้นเป็น 542 ตัน เพิ่มขึ้น 148 ตัน นั่นคือระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ พร้อมกับยังมีการเพิ่มขึ้นด้านอัตราศักย์เงินในตลาดภายในประเทศอีกด้วย ซึ่งชาวตุรกีได้ประกันตัวในเงินทุนของตนเองจากการเสื่อมค่าของเงินท้องถิ่นและเงินเฟ้อ ในปีที่ผ่านมา อัตราเสื่อมค่าในตุรกีก็เกิน 85%
ในเดือนมิถุนายนนี้ ความทำกำไรของธนาคารกลางอื่น ๆ ในการซื้อทองก็เพิ่มขึ้น
ธนาคารประชาชนในประเทศจีนเพิ่มสำรองทองเข้าไปอีก 21 ตัน นี่เป็นครั้งที่ 8 ที่ประเทศจีนซื้อทอง พร้อมกับการเพิ่มสำรองทองอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลานี้ อย่างรวมถึงการเพิ่มสสำรองน้ำมันในประเทศขึ้นถึง 2,113 ตัน
ธนาคารกลางของโปแลนด์ซื้อทองคำประมาณ 13 ตันในเดือนมิถุนายน ทำให้สะสมเงินสำรองรวมประมาณ 276 ตัน
ธนาคารกลางของสาธารณรัฐเช็กก็ในเดือนมิถุนายนซื้อโลหะมีค่าประมาณ 3 ตัน ซึ่งเป็นการซื้อมาเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน รวมถึงการซื้อรวมประมาณ 8 ตันตั้งแต่เริ่มปี
และอุซเบกิสถานก็เพิ่มสะสมเงินสำรองในเดือนมิถุนายน 8 ตัน โดยมีการซื้อเป็นเดือนติดต่อกันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
ธนาคารกลางกำลังทำการประกันตัวเองอย่างต่อเนื่อง