เมื่อปิดตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดัชนี Dow Jones ร่วงลง 0.56% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.73% และดัชนีคอมโพสิต NASDAQ ลดลง 0.28%
บริษัท Caterpillar Inc แสดงผลงานได้ดีที่สุดในบรรดาส่วนประกอบของดัชนี Dow Jones ในวันนี้ โดยเพิ่มขึ้น 13.30 จุดหรือ 6.76% ปิดที่ 210.00 บริษัท Chevron Corp เพิ่มขึ้น 8.49 จุดหรือ 5.24% ปิดที่ 170.53 บริษัท Boeing Co เพิ่มขึ้น 4.63 จุดหรือ 2.74% ปิดที่ 173.80
หุ้นของบริษัท Coca-Cola Co เป็นผู้นำของการขาดทุน โดยราคาของหุ้นลดลง 2.42 จุด (3.96%) ปิดเซสชั่นที่ 58.66 บริษัท Procter & Gamble เพิ่มขึ้น 3.96% หรือ 6.05 จุด ปิดที่ 146.79 ขณะที่บริษัท UnitedHealth Group Incorporated ร่วงลง 2.75% หรือ 13.41 จุด ปิดที่ 473.46
บริษัทที่ทำกำไรได้ในอันดับต้นในกลุ่มดัชนี S&P 500 ของการซื้อขายวันนี้ได้แก่บริษัท Enphase Energy Inc ซึ่งเพิ่มขึ้น 10.82% ไปเป็น 175.99, SolarEdge Technologies Inc ซึ่งเพิ่มขึ้น 10.41% ปิดที่ 328.91 และหุ้นของ Quanta Services Inc ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.17% เพื่อปิดเซสชั่นใน 116.83
บริษัทที่ประสบการขาดทุนมากที่สุดคือบริษัท Seagate Technology PLC ซึ่งร่วงลง 9.51% ปิดที่ 90.57 หุ้นของบริษัท ConAgra Foods Inc ลดลง 8.22% โดยสิ้นสุดเซสชั่นที่ระดับ 30.93 ราคาของหุ้นบริษัท Intuitive Surgical Inc ลดลง 7.98% เป็น 269.32
บริษัทที่ทำกำไรได้ในอันดับต้นของบรรดาส่วนประกอบของดัชนี NASDAQ Composite ในการซื้อขายวันนี้ได้แก่บริษัท Hycroft Mining Holding Corporation ซึ่งเพิ่มขึ้น 203.31% ไปเป็น 1.00 บริษัท Kala Pharmaceuticals Inc ซึ่งเพิ่มขึ้น 88.49% ปิดที่ 1.15 เช่นเดียวกับหุ้นของ Westport Fuel Systems Inc ซึ่งเพิ่มขึ้น 52.63% ที่สิ้นสุดเซสชั่นใน 2.03
บริษัทที่ประสบการขาดทุนคือหุ้นของ Imperial Petroleum Inc ซึ่งร่วงลง 43.33% ปิดที่ 4.25 หุ้นของบริษัท Inspirato Inc ลดลง 42.78% โดยสิ้นสุดเซสชั่นที่ 15.25 ราคาของหุ้น Digital Brands Group Inc ลดลง 30.61% ไปเป็น 1.36
ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก จำนวนหลักทรัพย์ที่มีราคาสูงขึ้น (1694) เกินจำนวนหลักทรัพย์ที่ปิดติดลบ (1502) ในขณะที่ราคาหุ้น 147 หุ้นแทบไม่เปลี่ยนแปลง ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ มีบริษัทเพิ่มขึ้น 2069 แห่ง ราคาลดลง 1,727 แห่ง และ 265 แห่งยังคงอยู่ที่ระดับของการปิดราคาครั้งก่อน
ดัชนีความผันผวน CBOE ซึ่งอิงจากการซื้อขายออปชั่น S&P 500 ลดลง 3.62% มาอยู่ที่ 35.13
ฟิวเจอร์สทองคำสำหรับการส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่ม 3.12% หรือ 62.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 2.00 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 4.44% หรือ 5.30 ปิดที่ 124.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนต์สำหรับการส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 0.06% หรือ 0.08 สู่ 129.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในขณะเดียวกัน ในตลาดฟอเร็กซ์คู่สกุลเงิน EUR/USD ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 0.00% ไปเป็น 1.09 ขณะที่คู่สกุลเงิน USD/JPY ขยับขึ้น 0.01% เพื่อแตะที่ 115.67
ฟิวเจอร์สในดัชนี USD ลดลง 0.17% มาที่ 99.12