เงินยูโรได้ย้อนกลับมาในตำแหน่ง เนื่องจากมีการแก้ปัญหาข้อพิพาทด้านการอพยพ

สกุลเงินยูโร ได้ร่วงลงไปเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความกลัวว่า นายกรัฐมนตรีของประเทศเยอรมัน Angela Merkel จะไม่สามารถแก้ไขปัญหานโยบายด้านการอพยพได้ และยังปล่อยให้มีการแบ่งความเห็นในพรรคอนุรักษ์นิยมของเธอได้ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การล่มสลายของรัฐบาลผสมของเธอได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงการปิดตัวในเซสชั่นอเมริกาเหนือ มันก็กลายมาเป็นที่ทราบกันดีว่า ทางฝ่ายเยอรมันของพรรค CDU และ CSU ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับ การอพยพซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง รวมถึงเงินยูโรอีกด้วย

จากที่คุณ Angela Merkel ได้กล่าวไว้ว่า ข้อตกลงเกี่ยวกับการอพยพ จะช่วยให้รักษากรอบความร่วมมือ กับประเทศในสหภาพยุโรป และยังช่วยให้กฎระเบียบของการเคลื่อนย้ายผู้อพยพระดับสองของผู้ลี้ภัย

ข้อมูลที่นำเสนอออกมาจากเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเองก็ช่วยสนับสนุนต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ

อ้างอิงตามการรายงานของสถาบันการจัดการอุปทาน ISM ที่ได้ระบุถึง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายอุปทาน PMI สำหรับภาคการผลิตในเดือนมิถุนายนของปีนี้ ได้เพิ่มขึ้นเป็น 60.2 จุด เมื่อเทียบกับ 58.7 จุดในเดือนพฤษภาคม โดยสิ่งสำคัญก็คือต้องสังเกตดูว่า มูลค่าที่สูงกว่า 50 นั้นจะแสดงถึงการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมนั้นเอง ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์ก็ได้คาดการณ์ไว้ว่า ในเดือนมิถุนายนนั้น ดัชนีจะอยู่ที่ 58.1 จุด


แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ตัวบ่งชี้ของกิจกรรมทางภาคอุตสาหกรรม ในสหรัฐอเมริกาของเดือนมิถุนายน ได้ลดลงไปอย่างมาก อ้างอิงจากการรายงานของสถาบัน IHS Markit เผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายการซื้อ PMI สำหรับภาคการผลิต ได้ลดลงไปสู่ 55.4 จุดในเดือนมิถุนายน ปี2018 จากเดิมใน 56.4 ในเดือนพฤษภาคม ตามที่ระบุไว้ในการรายงานของ Markit พบว่า มีการลดลงของดัชนี โดยเกี่ยวข้องโดยตรงกับ การเติบโตของการผลิตและคำสั่งซื้อใหม่ที่ลดลงไป

ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ของสหรัฐอเมริกา สำหรับเดือนพฤษภาคมได้พิ่มขึ้นมา อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา ที่ได้เปิดเผยว่า ค่าใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ และมีมูลค่าประมาณ 1.309 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นนักเศรษฐศาสตร์จึงคาดการณ์ไว่ว่า ค่าใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้นถึง 0.7% ส่วนข้อมูลสำหรับเดือนก่อนหน้านี้เองก็ได้รับระดับลงไป

สำหรับภาพรวมทางเทคนิคในปัจจุบันของคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EURUSD) พบว่าก็ก็ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง หลังจากที่ผู้ซื้อได้ปรับตัวขึ้นมาเมื่อวานนี้ สำหรับคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EURUSD) ก็ยังคงต้องการการกลับมาและรวมกำลังให้อยู่เหนือระดับแนวต้านระยะกลางที่ 1.1660 เฉพาะช่วงที่มีการเคลื่อนตัวทะลุผ่านของช่วงนี้เท่านั้น จะช่วยให้พวกเราสามารถคาดการณ์ถึง แนวโน้มขาขึ้นได้ ด้วยการปรับระดับขึ้นเป็น 1.1720 และ 1.1780 ในกรณีของการปรับตัวลดลงของเงินยูโรนั้น ก็จะมีการสนับสนุนเพิ่มเติมมาจากพื้นที่ 1.1570

เงินดอลลาร์ออสเตรเลียยังแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะมีข้อมูลที่อ่อนแอออกมา ต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคในออสเตรเลียก็ตามที

อ้างอิงจากการรายงานของสถาบัน ANZ-Roy Morgan ที่ได้ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศออสเตรเลีย ได้ลดลงไป 0.8% ไปอยู่ใน 120.4 จุด ดังนั้นแล้วความกดดันหลักในดัชนี ได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในอนาคตอีกด้วย