เฟดอาจจะยังไม่ทำการกระตุ้นเงินดอลลาร์ในตอนนี้

คู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในช่วงที่ใกล้ชิดกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะออกมา ในวันพรุ่งนี้ทางเฟดจะออกมาประกาศถึงการตัดสินใจ และต่อไปจะเป็นวันพฤหัสบดีนี้ ของทางธนาคารกลางแห่งยุโรปต่อไป ทางด้านตลาดกำลังเตรียมพร้อมสำหรับความปั่นป่วนที่จะเกิดขึ้นมา เนื่องจากตำแหน่งของธนาคารกลาง จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของการเคลื่อนไหว ของสกุลเงินข้างต้นในระยะยาว สำหรับการประชุมในรอบเดือนมิถุนายนของธนาคารกลางนั้นยังไม่มีผลลัพธ์ที่ชัดเจนออกมา ในยุโรปแนวทางของการผ่อนคลายทางปริาณนั้น จะมีการตัดสินใจเกิดขึ้น และในวอชิงตันเองก็พบว่ามี ทางด้านผู้ควบคุมจะหารือเกี่ยวกับโอกาสในการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด

นักกลยุทธ์ด้านสกุลเงิน กำลังพูดถึงสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ในการประชุมของวันพรุ่งนี้ของหน่วยงานผู้กำกับดูแลของสหรัฐอเมริกา โดยที่ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ทางเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเป็นร้อยละ 2 โดยเป็นเวลานานมาแล้วที่มีการให้ข้อมูลมาเรื่อยๆจากสมาชิกของทางเฟด ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตของเฟดก็ยังแตกต่างกันออกไป ส่วนตัวแทนของผู้มีจุดยืนที่ต้องการควบคุมสภาพเศรษฐกิจ เองก็เชื่อว่าสมาชิกของหน่วยงานผู้กำกับดูแล จะมีท่าทีที่ลำบาก เนื่องจากการเติบโตของตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และแม้ว่า ทางเฟดจะไม่ได้ออกมาประกาศเร่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่เขาก็สามารถพูดได้อย่างชัดเจน ว่าการเปลี่ยนแนวทางของคำแถลงการณ์ที่มาพร้อมกัน ดังนั้นแล้วหนึ่งในสถานการณ์ที่ "การควบคุมสภาพเศรษฐกิจ" ก็จะแสดงให้เห็นว่าทางเฟด จะแยกเนื้อหาออกจากคำแถลง ว่าอัตราจะยังคงอยู่ในช่วงการดูแล "ที่ต่ำกว่าระดับกึ่งกลางในระยะยาวในระยะเวลาไม่แน่นอน" โดยที่สัญญาณดังกล่าวจะถือว่าเป็นอะไรที่เทรดเดอร์เห็นด้วย แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นได้ยาก

ขอแจ้งเตือนคุณว่า ในการประชุมครั้งก่อนหน้านี้ ทางด้านสมาชิกของหน่วยงานผู้กำกับดูแล ได้อนุญาตให้มีการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยถึงสามหรือสี่ครั้งภายในปีนี้ โดยสถานการณ์ทั่วไปจะเป็นการเพิ่มขึ้นสามครั้ง แม้ว่าการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาจะไม่สามารถละทิ้งตัวเลือกที่สองได้ ในประเด็นนี้จะเป็นประเด็นที่มีความสำคัญในการประชุมต่อไปในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นแล้ว ในความเห็นของฉันแล้วคิดว่าทางเฟดจะยังไม่ประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในสี่ครั้ง และจะยังไม่ปรับการคาดการณ์ในระยะกลาง

ในอันดับแรกนั้นจะพบได้ว่า หากอัตราการว่างงานลดลงไปถึงระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี ทางด้านค่าจ้างรายเฉลี่ยรายชั่วโมงจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ ตามความจริงแล้วเรื่องนี้ถูกกล่าวซ้ำโดยทางด้านคุณ Janet Yellen และ Jerome Powell นอกจากนี้แล้ว ผลรายงานการประชุมครั้งล่าสุดก็ชี้แจงว่า อัตราเงินเฟ้อที่มากเกินกว่าอัตราที่กำหนดนั้นไม่ใช่ "ยาครอบจักรวาล" และจะไม่นำไปสู่การเร่งรัดต่อการปรับอัตราดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมวันนี้ เงินดอลลาร์ถึงไม่ได้รับผลกระทบจากการรายงานที่ออกมา อ้างอิงข้อมูลตามที่ระบุไว้ โดยที่ดัชนีราคาผู้บริโภคได้ขยายตัวออกมา 0.2% ในรายรายเดือนและเพิ่มขึ้นถึง 2.8% ในรายปี ดังนั้นแล้วการเคลื่อนไหวในเชิงบวกไม่น่าจะส่งผลต่อ ระดับของการแก้ไขของสมาชิกในหน่วยงานกำกับดูแล ตามจุดยืนที่ได้แสดงออกมาในช่วงก่อนหน้านี้

แต่ผลการประชุมของ G7 ก็อาจมีผลต่อเฟด โดยที่พฤติการณ์ของนาย Donald Trump อาจจะมองได้ว่าเขาคิดว่า สงครามการค้าในปีนี้จะได้รับแรงกดดันเฉพาะเท่านั้น ในทางกลับกัน ทางด้านหัวหน้าของธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวออกมาในเดือนมีนาคมในช่วงการแถลงข่าวว่า "สถานการณ์ในการค้าต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ได้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยง" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สถานการณ์ในเรื่องนี้ก็ได้แย่ลงไปเรื่อยๆ แม้จะมีความพยายามในการเจรจาก็ตามที ดังนั้นแล้ว สหภาพยุโรปและประเทศแคนาดากำลังเตรียมที่จะมีการตอบสนอง ต่อการใช้งานภาษีสำหรับเหล็กและอะลูมิเนียม ส่วนทางด้านนาย Trump ก็กำลังเตรียมตัวที่จะใช้งานภาษีต่อรถยนต์ที่มาจากต่างประเทศ ส่วนที่ประชุม G7 นั้นเอง ประเทศเยอรมัน นำโดยนายกรัฐมนตรี Angela Merkel ได้กล่าวว่าขั้นตอนนี้ "จะไม่เพิกเฉยไว้โดยไม่มีคำตอบ."

"ส่วนด่านหน้า" ของประเทศจีนยังคงเดิม ในการประชุมขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ทางด้านผู้นำ PRC ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อกรุงวอชิงตัน โดยกล่าวว่า นโยบายของเขานั้นคือ "หากพูดสั้นๆ ก็คือเห็นแก่ตัวและสร้างความขัดแย้ง" การกระทำมันบ่งบอกในตัวมันเอง และในตอนนี้เห็นได้ชัดว่า รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา ผู้ที่ได้ออกมาประกาศในวันนี้ถึง ข้อสรุปของข้อตกลงและข้อสรุปของสงครามการค้า อย่างเร่งด่วนและเห็นได้ชัดเจน เพื่อหาข้อสรุปว่าส่วนต่างระหว่างทั้งสองประเทศกำลังเพิ่มขึ้น ดังนั้นแล้ว ข้อพิพาททางการค้ากับประเทศแคนาดาก็ยังทวีความรุนแรงขึ้นอยู่ จากการที่มีความเป็นไปได้สูงที่ทาง สหรัฐอเมริกาจะถอนตัวออกจาก ข้อตกลงสัญญา NAFTA โดยกำลังพิจารณาจากคำวิจารณ์ที่รุนแรงของนาย Trump เกี่ยวกับ Justin Trudeau

มันยังเป็นการยากที่จะมาประเมินผลกระทบ จากการใช้งานมาตรการป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงสงครามการค้า "สามด่าน" (สหภาพยุโรป, ประเทศจีน, แคนาดา) ดังนั้นแล้ว ความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในขอบเขตของการค้าระหว่างประเทศ ก็จะมีผลต่อการแก้ไขปัญหาของสมาชิกเฟดอีกด้วย มีแนวโน้มออกมาว่า คุณ Jerome Powell ยังให้ความสำคัญกับปัญหานี้ จากการแถลงการณ์ดังกล่าวจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์ได้อ่อนค่าลงไป เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่อัตราการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยถึงสี่เท่าจะลดลงไปอย่างมาก

นอกจากนี้แล้ว ประเด็นของทางเฟดเองก็อาจเป็นรูปแบบของ "เส้นอัตราผลตอบแทน " ของพันธบัตร ซึ่งจะกลายเป็นแนว "ราบเรียบ" มากขึ้น อ้างอิงข้อมูลตามที่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากได้บ่งชี้ กันว่าอาจจะทำให้เกิดความกังวลในหมู่สมาชิกผู้ควบคุมได้เนื่องจากการ มีกราฟแบบ "ราบเรียบ" ในเส้นโค้งเป็นสัญญาณเตือนภัย แสดงถึงการลดลงที่เกิดขึ้นได้จริงของเศรษฐกิจในประเทศ ในปีนี้ตัวแทนของธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Raphael Bostic) ได้ออกมาพูดถึงข้อกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้กันแล้ว

ดังนั้นแล้วธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา อาจจะยังไม่ทำการกระตุ้นเงินดอลลาร์ให้มีการปรับตัว โดยกล่าวไว้ในที่ประชุมของเดือนมิถุนายน ความจริงของการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นนั้นได้มีการพิจารณารวมทั้งในด้านราคา ระหว่างที่มุมมองของนโยบายทางการเงินเองก็ยังไม่ชัดเจน อาจจะเป็นไปได้ว่า คุณ Jerome Powell ยังไม่ได้ละเว้นความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นถึงสี่เท่า แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง เขาก็จะชี้ให้เห็นถึง ความเสี่ยงที่มีอยู่ซึ่งเป็นไปตามหลักทัศนคติ "การควบคุมเศรษฐกิจ" ของเขา