รายงานคู่สกุลเงินยูโรและปอนด์ (EUR/GBP): สถานะการซื้ออาจจะค่อนข้างเสี่ยง

สกุลเงินยูโร ในสัปดาห์นี้เป็นที่สนใจของนักลงทุนกันอย่างมากมาย โดยพบว่ามีการเติบโตเกิดขึ้นทั่วทั้งตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินยูโร มีอิทธิพลในคู่สกุลเงินอย่าง เยน, ดอลลาร์ ส่วนคู่สกุลเงินรองอย่าง ยูโรและปอนด์ ในช่วงนี้ก็ยังไม่มีข้อยกเว้นใดๆออกมา แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การเปิดสถานะแบบการซื้อ สำหรับคู่สกุลเงินเหล่านี้ มีความเสี่ยงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากลองพิจารณาการค้าในระยะกลางหรือระยะยาวดู

แม้ว่าปฏิธินเศรษฐกิจจะว่างเปล่าในสัปดาห์นี้ แต่เงินยูโรก็แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่ง ซึ่งมาจากข่าวลือที่ออกมาเกี่ยวกับ "การรัดกุมทางเศรษฐกิจ" ที่เป็นความตั้งใจของธนาคารกลางแห่งยุโรป โดยที่ตัวแทนของ ธนาคารกลางแห่งยุโรปได้นำเสนอถึงแนวทางการตัดสินใจมาโดยตลอดของ หน่วยงานที่กำกับดูแลเพื่อกำหนดวันที่เสร็จสิ้นการดำเนินการผ่อนคลายเชิงปริมาณ ด้วยการปรับตัวลงในความเชื่อมั่นอย่างรุนแรงเพียงพอที่จะกระตุ้นให้เกิดความผันผวนอย่างมาก หลังจากนั้นแล้ว เในไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางเทรดเดอร์หลายคนเกือบออกจากตำแหน่งของพวกเขาเอง อันเนื่องมาจากการยืดขยายระยะเวลาการดำเนินการการกระตุ้นไปในระยะเวลาที่ยังไม่แน่นอน และในที่สุด ก็ยังเป็นคำถามเกี่ยวกับ เรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นนั้นอาจจะยืดระยะออกไป

แต่ในแนวโน้มพื้นฐานของเงินยูโรได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อย่างในประเทศอิตาลี รัฐบาลได้ถูกก่อตั้งขึ้นมาแทนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ ส่วนในประเทศสเปนเองก็พบว่า รัฐบาลได้รับการส่งมอบต่อไปจากทางพรรค Pro-European ไปยังอีกฝ่ายหนึ่ง และทางด้านนาย Trump เองก็ออกมาตัดสินใจที่จะ เลื่อนสงครามทางการค้ากับสหภาพยุโรปออกไป ทางด้านตัวบ่งชี้เศรษฐกิจมหภาคของยุโรปเองก็ยังฟื้นตัวขึ้นมา ซึ่งเป็นสัญญาณที่ได้ยืนยันถึงการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่ในธนาคารกลางแห่งยุโรป หรือกล่าวในอีกนัยหนึ่งก็คือ ในช่วงที่กำลังจะมีเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการยุติการผ่อนคลายเชิงปริมาณออกไป อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในบริบทของการประกาศออกมาเป็นวันที่ของขั้นตอนดังกล่าวด้วย โดยข่าวลือเหล่านี้ออกมาเกี่ยวกับ ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องของกับสมาชิกของหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปค่อนข้าง "เดือดขึ้น"

ไม่ค่อยน่าแปลกใจ อย่างเช่นภาพรวมเชิงพื้นฐาน ที่ได้สร้างอุปสงค์ออกมาสำหรับสกุลเงินในยุโรป ตัวอย่างเช่นเมื่อจับคู่กับ สกุลเงินเยน แล้วจะพบว่ามีการพิจารณาถึงตำแหน่งการซื้อจะเป็นตัวกลางและมีมุมมองในระยะยาวเกิดขึ้น เมื่อลองมาพิจารณาจากตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาคที่ได้รายงานออกมาล่าสุดจะพบว่า หน่วยงานที่กำกับดูแลของประเทศญี่ปุ่น อาจจะไม่เสริมกำลังตำแหน่งของพวกเขา และน่าจะออกมารับปากถึงการพิจารณาหาตัวเลือกสำหรับนโยบายทางการเงินแบบพิเศษในอนาคต ดังนั้นแล้ว แนวโน้มในขาขึ้นของคู่สกุลเงินยูโรและเยน (EUR / JPY) จะยังคงมีอยู่ต่อไป หากสมาชิกของธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกาได้ออกมายืนยันถึงข่าวลือที่ได้คาดการณ์ไว้ในตลาด

แต่สถานการณ์สำหรับ คู่สกุลเงินยูโรและปอนด์ ค่อนข้างแตกต่างออกไป ในตอนนี้สกุลเงินปอนด์ "ยอม" ให้กับกำลังของเงินยูโร แต่เพียงเพราะว่า กำลังรอการออกเสียงลงคะแนนที่สำคัญ ในการแก้ไขข้อกฎหมายด้าน Brexit ส่วนสื่อมวลชนจากอังกฤษเองก็ได้เรียกให้มีประชุมวันที่ 12 เดือนมิถุนายน ที่จะกลายมาเป็นวันสำคัญ ที่จะกำหนดความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างสหราชอราณาจักรอังกฤษ กับสหภาพยุโรป นอกจากนั้นแล้ว ควรมาสังเกตกันว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาการแก้ไขข้อกฎหมายเพิ่มเติมในมาตราที่ 15 ไปจนถึงข้อกฎหมายนอกเหนือจากนั้น โดยทั้งหมดแล้วเพื่อให้ลดระดับจาก "ขั้นตอนการถอนตัวออกจาก" สหภาพยุโรปลงไปได้ ในทางกลับกันรัฐบาลของ Theresa May อาจจะต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ "ยากลำบาก" จนกว่าจะถอนตัวจากประเทศเพื่อนบ้านได้ โดยไม่ต้องมีการสรุปข้อตกลงใดๆออกมา ดังนั้นแล้ การแก้ไขกฎหมายเหล่านี้ได้ถูกจัดทำขึ้นโดย สภาสูงของรัฐสภาอังกฤษ (สภาขุนนาง) และในความเป็นจริง พวกเขาได้ทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันของตำแหน่งที่แน่วแน่ของ Theresa May มันดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้มที่ว่า การโหวตจะสิ้นสุดลงในช่วงกลางคืนของวันที่ 13 เดือนมิถุนายน เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะต้องพิจารณาและ ทำการอภิปรายข้อมูลที่หลากหลาย

หนึ่งในประเด็นที่มีความสำคัญ ก็คือการเป็นสมาชิกของสหราชอาณาจักรอังกฤษในประชาคมเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป ทางด้านของ Theresa May อาจมีความมุ่งมั่นที่จะขอถอนตัวออกจากเขตเศรษฐกิจยุโรป และออกจากระบบตลาดเดียว ทางด้านสภาขุนนาง (ร่วมกับพรรคแรงงาน) ก็กลายเป็นว่า ในที่สุดก็ได้ออกมาเสนอตัวที่จะรักษาประเทศให้อยู่ภายใน การเป็นสมาชิกของสหภาพศุลกากรของการเป็นพันธมิตรร่วมกัน ส่วนตลาดเองก็ได้ตอบสนองค่อนข้างมากกับคำถามนี้ ดังนั้นแล้วในกรณีของการยอมรับของในการแก้ไขกฎหมาย เงินปอนด์ก็จะอยู่ในช่วงที่ค่อนข้างมีความผันผวนสูง

ในส่วนนี้เป็นที่น่าสังเกต ที่ว่าในช่วงปลายเดือนมิถุนายน ทางด้านที่ประชุมสหภาพยุโรปจะจัดขึ้น โดยที่ประเทศอังกฤษเองก็จะต้องไปเข้าร่วม และแสดงจุดที่ชัดเจนและเป็นที่เข้าใจโดยถึงกัน เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการเมือง, กฎหมายและเศรษฐกิจในอนาคตในกรุงบรัสเซลส์ ในทางกลับกัน จุดยืนอัน "หนักแน่น" นี้ก็จะขึ้นอยู่กับผลของการลงคะแนนเสียงในวันที่ 12เดือนมิถุนายนนั้นเอง ถ้าหากสภาผู้แทนราษฎรเห็นด้วยกับข้อเสนอของ สภาขุนนางแล้วละก็ การเจรจากับทางกรุงบรัสเซลส์ก็จะดำเนินไปในทิศทางที่แตกต่างกันเล็กน้อย

นั่นคือเหตุผล ที่เกี่ยวข้องกับการพูดคุยถึงประเด็นเงินปอนด์ สำหรับปัจจัยพื้นฐานได้มีข้อได้เปรียบสูงกว่าส่วนอื่นทั้งหมด นอกจากนี้แล้ว ในการประชุมของธนาคารกลางแห่งยุโรปเอง ก็จะจัดขึ้นขึ้นมาในวันพฤหัสบดี และมีการลงมติในรัฐสภาอังกฤษในวันอังคาร (อาจจะยืดไปจนถึงวันพุธ) ในกรณีของ "ชัยชนะ" ของนักการเมืองที่ชื่นชอบในการรวมกลุ่มกับยุโรป เงินปอนด์ก็จะได้รับการสนับสนุนอย่างไม่มีเงื่อนไข และเงินยูโรก็จะไม่สามารถคัดค้านการดำเนินการเรื่องนี้ได้ ในอนาคตอันใกล้นี้ สถานการณ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปได้ต่อไป (ตัวอย่างเช่น มีความเสี่ยงต่อการลาออกของนายกรัฐมนตรีหญิง Theresa May) แต่การตอบสนองครั้งแรกจะเป็นประโยชน์ต่อสกุลเงินปอนด์

ดังนั้นแล้ว สามารถตั้งข้อสรุปได้ว่า ในช่วงนี้ เงินยูโรมีกำลังในคู่สกุลเงินยูโรและปอนด์ (eur/gbp) เนื่องจาก เทรดเดอร์มีความเชื่อมั่น ในจุดยืนของการรัดกุมทางเศรษฐกิจของธนาคารกลางแห่งยุโรป ในอีกทางหนึ่งก็ยั ไม่แน่ใจในมากนัก (สำหรับเงินปอนด์) ในส่วนของผลการออกเสียงลงคะแนนเสียงในวันที่ 12 เดือนมิถุนายน ดังนั้นแล้ว สถานะแบบการซื้อก็จะได้รับการพิจารณาจนถึงช่วงสิ้นสุดสัปดาห์นี้ แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่ เนื่องจากการรายงานข้อมูลภายใน ที่เกี่ยวข้องกับการลงคะแนนเสียงที่จะเกิดขึ้นสามารถสร้างกำลังให้กับปอนด์ได้ ทางเทคนิคแล้วจะพบได้ว่า คู่สกุลเงินรอง ในกราฟรายวัน ได้อยู่ในแนวเส้นสูงสุดของตัวบ่งชี้ Bollinger Bands และ เหนือกว่าแนวเส้นทั้งหมดของตัวบ่งชี้ Ichimoku Kinko Hyo มันจึงได้แสดงให้เห็นถึง ลำดับความสำคัญของการเคลื่อนไหวที่สูงขึ้นโดยที่มีเป้าหมายใน 0.8920 (เส้นด้านบนของตัวบ่งชี้ Bollinger Bands ซึ่งเกี่ยวข้องกับขอบเขตด้านบนของตลาวด์ Kumo ในแผนผังรายสัปดาห์) แต่ เนื่องจากแนวโน้มเชิงพื้นฐานที่ไม่เสถียร จึงทำให้ตำแหน่งการซื้อของคู่สกุลเงินนี้จึงดูไม่ปลอดภัยมากนัก