เบรนท์ไม่ได้รับผลกระทบจากนาย Donald Trump


หากลองพิจารณาในการเคลื่อนตัวของสกุลเงินและตลาดหุ้นที่เกิดมาจากการทวิตขอความผ่านทางทวิตเตอร์ของนาย Donald Trump จะพบว่าเขาได้ตัดสินใจที่จะทดสอบประสิทธิภาพในการแสดงความเห็นของเขาผ่านทางข้อความเหล่านี้ อ้างอิงจากทางด้านประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ที่ได้ระบุว่า ในสถานการณ์ที่ปริมาณคงเหลือของสินค้ามีแต่น้ำมันเต็มไปหมด ทางด้านโอเปกก็ออกมาเพื่อรักษาระดับราคาให้สูงขึ้น ส่วนทางเบรนท์ และ WTI เองก็มีปฏิกริยากับการลดระดับลงมาประมาณ 1เหรียญต่อบาร์เรลในการเคลื่อนตัวไปแต่ละระดับ แต่ก็ยังกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วได้ ไปในระดับที่สูงสุดในรอบเดือนพฤศจิกายนปี 2014 ที่ผ่านมา นั้นเป็นช่วงที่ทางกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันได้ตัดสินใจลดอัตราการผลิตลงมา เพื่อคงความเสถียรภาพในตลาด หลังจากนั้นอีก 3 ปีให้หลัง มันก็แสดงผลลัพธ์ออกมาให้เห็นกันทั่วหน้า

ความสำเร็จนั้นไม่ได้มาอย่างง่ายๆ แต่หลังจากที่ทางประเทศรัสเซีย และผู้ผลิตรายอื่นได้เข้าร่วมในข้อตกลงของโอเปก ก็แสดงให้เห็นถึง ความตั้งใจและการดำเนินการของพวกเขาต่อหน้าที่ จะเห็นได้ว่า ปริมาณสำรองทั่วโลกได้ย้อนกลับลงไปในช่วงเฉลี่ย 5 ปีแล้ว ในเวลเดียวกันกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันก็ยังไม่ได้รับสัญญาออกมาเกี่ยวกับการยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว และทางซาอุดิอาระเบียเองก็กล่าวว่า เศรษฐกิจของโลกจะสามารถรับมือกับราคาในระดับราคาที่ 75เหรียญต่อบาร์เรลได้

การดำเนินการตามเป้าหมายของกลุ่มประเทสที่ได้เข้าร่วมกับทาง โอเปก

ไม่ว่าทางกลุ่ม Riyadh จะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่เมื่อพิจารณาจากข้อความในทวิตเตอร์ของนาย Donald Trump แล้วจะพบว่า สหรัฐอเมิรกาก็เริ่มต้นที่จะแสดงความกังวลออกมา เพราะว่าทางสหรัฐได้มีการนำเข้าน้ำมัน ซึ่งยิ่งเพิ่มการขาดดุลในดุลการค้าของพวกเขา และนี้เป็นพื้นที่สำหรับการค้าระหว่างประเทศที่ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นจาก การใช้งานภาษีสินค้านำเข้าเกี่ยวกับเหล็กและอะลูมิเนียม ส่วนทางทำเนียบขาวเองก็มีโอกาสที่จะได้รับข้อดีจากการ "ปรับตัวขึ้น" จากทางเบรนท์และ WTI ที่ในตอนนี้ยังเป็นอิสระอยู่ (อัตราส่วนของสถานะแบบซื้อและขาย ในระดับของทะเลเหนืออยู่ใน 14 ต่อ 1 ) ในการดำเนินการต่อไปนั้น เขาจำเป็นต้องช่วยผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหินในสหรัฐอเมริกาต่อไป อ้างอิงจากงานวิจัยของคุณ Wood Mackenzie ในการสร้างการไหลเวียนของเงินทุนแบบอิสระนั้น บริษัทจำเป็นต้องตั้งราคาไว้ใน 53เหรียญต่อบาร์เรลสำหรับระดับในเท็กซัส ในช่วงนี้ได้อยู่ใน 69เหรียญ ดังนั้นแล้ว ก็ยังมีโอกาสที่จะใช้งานแท่นขุดเจาะน้ำมันใหม่

ตามความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ทุกอย่างจะเรียบง่ายเสมอไป เพราะว่าผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหินเองก็ประสบปัญหาในการเพิ่มผลผลิตขึ้นมา รวมทั้งอัตราความจุของท่อส่ง, การดำเนินการของบริษัทที่เป็นตัวกลาง และ ความจำเป็นในการรวมกลุ่มทางอุตสาหกรรม อย่างที่สองนั้นก็คือ มีการเพิ่มขึ้นของราคา ที่ส่งผลให้เกิดหน่วยเงิน petrodollar ในประเทศผู้ผลิต ซึ่งได้เข้ามาสู่เศรษฐกิจโลกและยังเพิ่มอุปสงค์ขึ้นมา ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ทาง Goldman Sachs คาดการณ์ได้ถึงความต่อเนื่องของการปรับตัวในเบรนท์ ไปในทิศทางของ 82.5เหรียญต่อบาร์เรล

ตอนนี้ Donald Trump ได้ออกมาวิจารณ์โอเปกเกี่ยวกับการทำให้ระดับราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นมา แม้ว่าจะปราศจากการเข้าควบคุม แต่ทางด้าน OANDA ก็ยังเชื่อว่า หากทางสหรัฐอเมริกายังคงทำการคว่ำบาตรอิหร่านอยู่ ระดับราคาก็จะสูงขึ้นมากกว่า 5เหรียญ

ทางเทคนิตแล้ว การใช้งานเป้าหมาย 200% ในกราฟรูปแบบ AB = CD และการสร้างกราฟรูปแบบ "Three Indians" ยิ่งได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดการย้อนกลับขึ้นมา แม้ว่า มูลค่าของทางเบรนท์จะสูงกว่า 82เหรียญ โดยสถานการณ์ในตอนนั้ได้ถูกควบคุมไว้ด้วยแนวโน้มขาขึ้น

ชาร์ตรายวันของทางเบรนท์