ตลาดที่มาพร้อมกับมาตรการการตอบโต้ของประเทศจีน

ยูโรโซน

ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจมหภาคได้ออกมาในสัปดาห์ คาดว่าอาจจะไม่เหมาะกับแนวโน้มขาขึ้น โดยยอดการค้าปลีก ในประเทศเยอรมณีในเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวลงไปต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งลดระดับลงไป 1.3% ต่อปี เมื่อเทียบกับช่วงเดือนที่ผ่านมาใน 2.2% ทางด้านการเติบโตของกิจกรรมธุรกิจในภาคการผลิต ได้ลดระดับลงไปทั้งใน ประเทศเยอรมณี และยูโรโซนทั้งหมด

ข้อมูลเบื้องต้นของเงินเฟ้อในผู้บริโภค ของเดือนมีนาคมได้ลดระดับลงไปมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับดัชนีพื้นฐานได้แสดงให้ทราบว่า จะมีการปรับตัวขึ้นมาถึง 1% แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ไว้ว่าอาจจะอยู่ใน +1.1% อ้างอิงจากการรายงานของธนาคารกลางแห่งยุโรปในส่วนของ อัตราการออมเงินของครัวเรือนต่อรายได้จริง ได้ลดระดับลงไปในไตรมาสที่สามในปี 2017 ลงไปอย่างมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน 1999 ที่ผ่านมา แล้วยังอยู่ในระดับระแวกเดิม หากการเติบโตในเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นก็อาจจะช่วยสนับสนุน อัตราการเติบโตของค่าจ้าง ส่วนปัจจัยในด้านการเติบโตอื่นๆในเงินเฟ้อก็อาจจะไม่ได้รับผลประโยชน์ไปด้วย

ดัชนีตลาดหุ้นในยุโรป Stoxx 50 ได้ไปทดสอบระดับต่ำในรอบ 12 เดือน หลังจากที่มีการปรับตัวของดัชนีสหรัฐอเมริกา ซึ่งดูเหมือนว่าอาจจะยังไม่สามารถการปรับตัวขึ้นไปด้านบนได้

ในวันพฤหัสบดี คุณต้องทำการจับตาดูการรายงานในด้าน คำสั่งด้านการผลิต ของประเทศเยอรมณีในเดือนกุมภาพันธ์ และ ดัชนี PMI จากสถาบัน Markit ในภาคบริการ ส่วนวันศุกร์ ประเด็นที่สำคัญจะอยู่ในการรายงานจากตลาดแรงงานของสหรัฐอเมริกา ที่อาจจะช่วยกำหนดแนวโน้มของตลาดในช่วงสัปดาห์นี้

เงินยูโรยังไม่ได้เป็นตัวกระตุ้นต่อการเติบโตในตอนนี้ ซึ่งโดยหลักแล้วก็ยังเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ ทางด้านคู่สกุลเงิน EURUSD อาจจะมีการปรับตัวลดระดับลงมาได้ แล้วมันอาจจะไปทดสอบกับแนวรับที่ 1.2155 ในช่วงนี้ก็เป็นได้

ประเทศอังกฤษ

ดัชนี PMI จากสถาบัน Markit ในภาคการผลิตมีการปรับตัวขึ้นมา ในเดือนมีนาคมที่ 55.1p ซึ่งคาดว่าอาจจะปรับตัวลดระดับลงไปถึง 54.7p แต่ดัชนีในส่วนของภาคการก่อสร้างเองก็ลดระดับลงมาในรอบสองปีที่ 47.0p โดยมันแสดงให้เห้นถึง การเติบโตขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และค่าจ้างที่อ่อนตัว ซึ่งอาจจะเพิ่มแรงกดดันไปยังตลาดบ้านในระยะยาวได้

เงินปอนด์ยังคงทรงตังอยู่ในระยะที่ยังไม่แน่ชัด เนื่องจากการขาดปัจจัยเชิงพื้นฐานมาสนับสนุน สำหรับปฏิทินทางเศรษฐกิจมหภาคของเงินปอนด์เองก็ยังว่างเปล่าอยู่ ดังนั้นแล้วดัชนี PMI ของภาคการบริการ จะมีการนำเสนอออกมาในวันพฤหัสบดี และเป็นเหตุการณ์เดียวที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ ที่ควรจับตามองไว้

ปัจจัยในส่วนของ Brexit ได้ถอยหลังไปอยู่ข้างหลัง โดยสงครามการค้าเองที่เริ่มต้นขึ้นมาจากการที่หลายคนให้ความสนใจมากขึ้นกับประเทศจีน และยูโรโซน และเงินปอนด์เองก็ยังไม่มีเหตุผลใดๆให้เคลื่อนตัวออกจากระยะนั้น ในเวลาเดียวกัน การเพิ่มขึ้นของแนวโน้มต่อต้านความเสี่ยงในตลาดก็อาจจะช่วยส่งเสริมการขายได้ หากมีการยืนยันถึงแนวโน้มด้วย เงินปอนด์ก็อาจจะเคลื่อนตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับที่ 1.4007

น้ำมัน

ในวันพุธ กรมพลังงานของสหรัฐอเมริกาจะทำการรายงานข้อมูล น้ำมันสำรอง โดยนักวิเคราะห์คาดไว้ว่าน่าจะติดลบ แต่คาดว่าอาจจะมีการเพิ่มขึ้นของปริมาณ ที่อาจจะส่งผลต่อราคา ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ในวันอังคาร ทางสถาบัน API จะทำการประกาศ การลดลงของปริมาณน้ำมันคงเหลือกับส่วนที่เหลือที่มีการดำเนินการผลิตเพิ่มขึ้น ดังนั้นแล้ว ข้อมูลในวันพุธ อาจจะค่อนข้างต่างจากการคาดการณ์ แล้วก็อาจจะก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดได้

อ้างอิงจากทาง Novak ผู้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานจากประเทศรัสเซีย ได้ระบุว่า ทางโอเปกและประเทศสมาชิกอาจจะมีการประชุมในเดือนกรกฏาคม เพื่อหารืนกันถึงความเป็นไปได้ในการขยายระยะเวลาของสัญญา ของการลดการผลิตน้ำมันลงมาภายในปีนี้ ในช่วงก่อนหน้านี้มีการรายงานมาว่า ประเทศรัสเซียและซาอุดิอาระเบีย ได้มีการมาร่วมมือกันในด้านสัญญา โดยสุดท้ายได้กลายมาเป็นสัญญาแบบชั่วคราว ซึ่งตามระยะการบังคับใช้นั้นก็สามารถขยายออกมาได้ถึง 10-20 ปี โดยทางประเทศสมาชิกในโอเปก ทั้งหมดแล้วต้องการให้เกิดการร่วมมือกันเช่นนี้ เพราะว่า ข้อตกลงนั้นเป็นส่วนช่วย ที่ทำให้เกิดการลดระดับของความไม่สมดุลของตลาดน้ำมัน

การสนับสนุนต่อทางเบรนท์อยู่ในระดับที่ 65.60 และดูเหมือนว่าอาจจะมีการย้อนกลับของการเติบโต และอาจจะไปทดสอบกับ ระดับสูงของเดือนมกราคม